ยา PEP
PrEP และ PEP คือยาอะไร?
ทั้ง PrEP และ PEP คือยาป้องกันการติดเชื้อ HIV เหมือนกัน หากแตกต่างกันตรงที่ PrEP ย่อมาจาก Pre-Exposure Prophylaxis ซึ่งหมายถึงเป็นการใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV ก่อนที่เราจะมีความเสี่ยง แต่ในส่วนของ PEP คือ Post-Exposure Prophylaxis ซึ่งเป็นการใช้ยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังจากที่เราได้รับความเสี่ยงมาแล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยยาทั้ง 2 ชนิด จะใช้ได้ผลในกรณีที่ยังไม่ติดเชื้อ HIV เท่านั้น
PrEP และ PEP ยาชนิดไหน เหมาะกับใคร?
เหมาะสำหรับกินก่อนได้รับความเสี่ยงหรือผู้ที่รู้ตัวอยู่แล้วว่ามีโอกาสเสี่ยง
กลุ่มคนที่จะมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ HIV
กลุ่มคนที่มีการใช้เข็มฉีดยาแบบฉีดเข้าเส้นร่วมกับผู้อื่น
กลุ่มคนที่มีเพศสัมพันธ์แบบ Multi Partner หรือมีคู่นอนหลายคน
กลุ่มผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชาย
กลุ่มที่มีการใช้ยา PEP อยู่บ่อยครั้ง และมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อเป็นระยะเวลานาน 3 เดือน
เหมาะสำหรับผู้ที่ได้รับความเสี่ยงมาแล้ว ไม่เกิน 72 ชั่วโมง
กลุ่มคนที่มีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก
กลุ่มคนที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย
กลุ่มคนที่มีเพศสัมพันธ์โดยสวมถุงยางอนามัยแต่ถุงยางอนามัยแตก
กลุ่มคนที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
บุคลากรทางการแพทย์ที่ถูกเข็มที่ผ่านการใช้งานทิ่มต่ำ
ยา PrEP ใช้อย่างไรให้ถูกวิธี ?
ยา PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) ประกอบด้วยตัวยา 2 ชนิดใน 1 เม็ด (Fix Dose Communication) สามารถใช้ได้ใน 2 รูปแบบ คือแบบ Daily PrEP กินทุกวันติดต่อกัน กับแบบ On Demand PrEP ใช้กินเมื่อทราบและวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะมีความเสี่ยง ซึ่งจะกินในระยะเวลาสั้นๆ แต่ในประเทศไทยเราจะนิยมใช้แบบ Daily PrEP มากกว่า เพราะในปัจจุบันการใช้ On Demand PrEP ยังมีการศึกษาผลการใช้ในเฉพาะกลุ่มที่มีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชาย และไม่ควรใช้ในผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอีกเสบบีร่วมด้วย
วิธีการใช้ Daily PrEP
ตามขั้นตอนเมื่อมาพบแพทย์ แพทย์จะทำการเจาะเลือดเพื่อคัดกรองการติดเชื้อ HIV ตรวจการทำงานของตับและไต และตรวจว่ามีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่ก่อนทำการจ่ายยา ซึ่ง Daily PrEP ควรกินอย่างน้อย 7 วันก่อนได้รับความเสี่ยง โดยต้องกินทุกวัน วันละ 1 เม็ด ในเวลาเดียวกัน จะทำให้ยามีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงพอที่จะป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่จะจ่ายยาให้เพียงพอต่อการกินเป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อติดตามคัดกรองว่ามีการติดเชื้อ HIV ในระหว่างการใช้ยาหรือไม่ ก่อนจะจ่ายยาเพิ่มอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน
ส่วนจะต้องใช้ยานานแค่ไหน? คำตอบคือ ให้กินต่อเนื่องไปจนกว่าจะหมดความเสี่ยง อย่างเช่น ในกลุ่มของผู้ให้บริการทางเพศ แพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาไปจนกว่าจะเลิกทำอาชีพดังกล่าว ซึ่งแม้ว่าจะหมดความเสี่ยงก็ไม่ควรหยุดการใช้ยาในทันที แต่ควรกินต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และเข้ารับการตรวจคัดกรองเชื้อ HIV อีกครั้ง หากไม่มีการติดเชื้อก็จะสามารถหยุดการใช้ยาได้
วิธีการใช้ On Demand PrEP
On Demand PrEP จะมีวิธีการใช้ที่ค่อนข้างจำเพาะ โดยจะต้องกินยา 2 เม็ด ล่วงหน้า 2-24 ชั่วโมงก่อนที่จะมีความเสี่ยงได้รับเชื้อ และหลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้วก็ต้องกินยาทุกวัน วันละ 1 เม็ด และกินต่อเนื่องไปอีก 2 วันหลังหมดความเสี่ยง หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย เช่น สมมติจะได้รับความเสี่ยงวันจันทร์ตอนกลางคืน ก็ควรกิน On Demand PrEP ในวันจันทร์ตอน เวลา 9 โมงเช้า 2 เม็ด จากนั้นก็กินทุกวัน วันละ 1 เม็ดตอนเวลา 9 โมง พอวันพุธแฟนกลับบ้านแล้ว ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แน่นอน ก็ให้กินยาต่อไปอีก 2 วัน คือวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ในเวลา 9 โมง จึงหยุดกินยา
“มีการศึกษาพบว่าถ้ากินยา PrEP อย่างถูกวิธี ตรงเวลา สม่ำเสมอ
จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้ถึง 90%”
Q&A
PrEP และ PEP มีผลข้างเคียงหรือไม่?
ยาทั้ง 2 ชนิด อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ทำให้รู้สึกเพลีย เวียนหัว คลื่นไส้ ในช่วง 2-3 วันแรกของการใช้ยา เนื่องจากร่างกายยังไม่คุ้นชินกับยา แต่ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง และสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
รุกหรือรับ ฝ่ายไหนเสี่ยงติดเชื้อ HIV กว่ากัน?
ไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์แบบชายกับชาย หรือชายกับหญิง ก็มีผลการศึกษาในทิศทางที่สอดคล้องกันว่า “ฝ่ายรับ” จะมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ HIV มากกว่า เนื่องจากมีโอกาสเกิดบาดแผลจากการมีเพศสัมพันธ์มากกว่า และเป็นฝ่ายที่ได้รับสารคัดหลั่ง จึงมีโอกาสที่เชื้อจะผ่านเข้าสู่บาดแผลได้มากกว่าฝ่ายรุก
Oral SEX กับผู้ติดเชื้อ HIV เสี่ยงหรือไม่เสี่ยง?
ตอบชัดๆ เลยว่า “มีโอกาสเสี่ยง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีแผลในปากก็จะมีโอกาสได้รับเชื้อได้ แต่ก็ต้องพิจารณาอีกว่าผู้ที่ติดเชื้อ HIV นั้นได้รับการรักษาแล้วหรือไม่ หากมีการรักษาจนระดับเชื้อไม่แพร่กระจายแล้ว หรือที่เรียกกันว่า U=U (Undetectable=Untransmittable) โอกาสติดเชื้อก็จะค่อนข้างน้อย
ใช้ยา PrEP / PEP แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัย จริงหรือ?
อันนี้เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะไม่ว่าจะเป็นยา PrEP หรือ PEP ก็สามารถป้องกันได้แค่เชื้อ HIV เท่านั้น แต่ย้ำชัดๆ ว่าไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้ ฉะนั้นแม้ว่าจะได้รับยา PrEP / PEP แล้ว ก็แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
โรงพยาบาลพญาไท : https://www.phyathai.com/th/article/prep-and-pep